หน้าจอแสดงผล จัดได้ว่าได้พัฒนามาไกลมากแล้วตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่หน้าจอยังเป็นการแสดงผลโดยใช้หลอดภาพโดยการยิงลำแสงอิเล็กตรอนไปยังที่ผิวหน้าจอ ซึ่งมีสารประกอบของฟอสฟอรัสฉาบอยู่ที่ผิว เมื่อถูกแสงอิเล็กตรอนมากระทบ สารเหล่านี้จะเกิดการเรืองแสงขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นภาพและสีตามสัญญาณ Analog ที่ได้รับมานั่นเอง จนมาถึงการใช้ผลึกเหลวมาใส่ไว้โดยใช้หลักการของการปรับเปลี่ยนโมเลกุลของผลึกเหลว เพื่อปิดกั้นแสงเมื่อมีสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามาเหนี่ยวนำ ทำให้เกิดสีขึ้นมา จนมาถึงการใช้หลอด LED ทำให้ติดดับเพื่อให้เกิดภาพและสี ทำให้ภาพและสีชัดเจนกว่าจอแสดงผลแบบเก่ามาก
Super Retina XDR หน้าจอแสดงผล ใหม่ล่าสุด

หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ Super Retina XDR บน iPhone11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ได้รับการออกแบบโดย Apple มีมาตรฐานสูงอย่างไม่น่าเชื่อ และอาจจะพูดได้เลยว่าเป็นจอแสดงผลที่ดีที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟนมีมา ให้ความแม่นยำของสีได้ดีที่สุด มีความแตกต่างของระดับสี ความสว่าง และมีขอบเขตสีที่กว้างแบบโรงภาพยนตร์ ซึ่งปรับเทียบสีต่างๆ ได้แม่นยำตลอดเวลา เพื่อความคมชัดที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าเล่นเกม ดูหนัง คมชัดทั้งภาพ และสีแน่นอน
เทคโนโลยี OLED การพัฒนาของอุตสาหกรรม หน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลแบบ Super Retina XDR ได้ใช้เทคโนโลยีไดโอดเปล่งแสงแบบออร์แกนิค (OLED) โดยที่ได้รับการพัฒนาให้เหนือกว่าจอแสดงผลแบบ OLED ที่เคยมี เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ตอบรับกับมาตรฐาน iPhone ในปัจจุบัน เทคโนโลยี OLED มีอัตราส่วนความต่างของระดับสีและความละเอียดสูง เมื่อไม่มีแบ็คไลท์ทำให้ OLED เปล่งแสงผ่านแต่ละพิกเซลได้จนได้เป็นหน้าจอแสดงผลที่สว่างสูง การรองรับสีกว้าง และแม่นยำของสีดีที่สุดในอุตสาหกรรมตอนนี้
หลักการทำงานของหน้าจอแสดงผล OLED

จอภาพแบบ OLED จะมีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม มีส่วนประกอบของสารที่เปล่งแสงได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า ไม่ต้องอาศัยแสงแบ็คไลท์ เพราะตัวจอสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง และหากจะแสดงสีดำ ก็จะไม่จ่ายไฟฟ้าเข้าไปในบริเวณนั้น ผลที่ได้คือ ตรงไหนเป็นสีดำ ก็จะดำสนิท และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย เพราะไม่มีการจ่ายไฟไปใช้ทุกๆจุดนั่นเอง
อีกทั้งหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ยังบางกว่าจอแบบ LCD/LED มาก เพราะไม่ต้องมีแผงแบ็คไลท์ไว้ด้านหลังแล้ว ทำให้หน้าจอมีความยืดหยุ่นสูง โค้งงอได้ดั่งใจ
อนาคตของเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล

จะเห็นได้ชัดเจนกว่าเทคโนโลยีแสดงผลแบบ OLED นั้นกำลังก้าวเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีการแสดงผลแบบเดิม การเกิดขึ้นของมันอาจจะทำให้เทคโนโลยีที่กำลังมาแรงอย่าง Flexible Display, Wearable Electronics, Ambient Lighting เริ่มพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ท่ามกลางสภาวะการขาดแคลนพลังงาน การใช้ความสว่างอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยประหยัดการใช้พลังงานลงไปอีกมากด้วย หลอดไฟที่ให้แสงสว่างในยุคต่อไปอาจจะทำมาจาก OLED เราอาจจะเรียกมันว่า “แผ่นไฟ” แทนก็ได้ เพราะไฟฟ้ากว่า 20% ได้ถูกนำมาใช้กับการให้แสงสว่าง ถ้าเพิ่มประสิทธิภาพให้หลอดไฟทั่วๆไป อาจจะทำให้เราประหยัดได้ถึง 50% ของการใช้ไฟในการส่องสว่างเลยก็ได้ อุตสาหกรรม OLED จะต้องก้าวกระโดด เติบโตไปอย่างรวดเร็วแน่นอน บางทีนาโนเทคโนโลยีอาจจะกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวคุณตั้งแต่ห้องนอนจนถึงที่ทำงานเลย